5 สายพันธ์ุที่เป็นที่นิยมในไทย

เรามาดู 5 สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมของไทย และเป็นที่นิยมในโลกโซเชียล เมื่อเปิดมาเมื่อไหร่ก็จะเจอรูปุถ่ายหน้ากลมๆ น่ารักๆ เรามาดูกันเลยคะ

1.แมวเปอร์เซีย (Persian)

            

       ราชินีเเห่งแมวเหมียวจากดินแดนตะวันออก ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตรกีนั้นเองคะ สิ่งที่ทำให้สายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมมนหมู่คนรักแมวก็เพราะว่า นอกจากความน่ารักมีหน้าตาน่าเอ็นดูแล้ว เรื่องขนปุกปุยของแมวเปอร์เซียยังมีสีสันที่หลากหลาย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกใหญ่ที่เเข็งแรง นอกจากหน้าตาน่ารักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีอุปนิสัยที่อ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีความร่าเริงซุกซนอยู่ในตัว ชังประจบประเเจง 

2.แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)

       เป็นแมวที่สืบเชื้อสายมาจากยุโรป ได้แพร่พันธุ์มายังอเมริกันสำหรับรูปร่างของสายพันธุ์นี้จะมีขนาดกลางไปจนขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโต อก-ขาใหญ่ กล้ามเนื้อแข็งแรง ตาจะเป็นสีมรกตปัญหาของสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนอกจากการได้รับการเอาใจใส่และการดูแล และควรพาไปตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซันเป็นประจำ

3.แมววิเซียรมาศ(Siamese)

       เป็นแมวไทย หรือที่รู้จักกันดีว่า "สยามไทย" หนึ่งในแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงจนเกิดเป็นแมวไทยอีกหลายๆสายพันธุ์ เจ้าแมวตัวนี้มีลักษณะฉลาด คล่องแคลว มีความเป็นตัวของตัวเอง แม้ว่าภายนอกอาจจะเป็นแมวที่สันโดษ แต่ความจริงแล้วกลับไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ดังนั้นจึงเป็นแมวที่ขี้อ่อน การเลี้ยงดูก็ควรปล่อยอย่างอิสระ

4.เเมวโคราช(Korat)

        เป็นหนึ่งในแมวที่เป็นมงคลของไทย ได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 5 ตามแหล่งกำเนิดแล้วพบในจังหวัดนครราชสีมาลักษณะของแมวมีขนเรียบมองดูด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน มีอายุไขประมาณ10-15ปี ควรใส่ใจเรื่องการฉีดวัคซีนเป็นพิเศษ

5.แมวเมนคูน(Main Coon)

          มีรูปร่างใหญ่กว่าแมวปกติและสมส่วน ดูสง่างาม ให้ความรู้สึกมั่นคงเข้มแข็ง ใบหน้าเหมือนแมวป่า มีแผงคอคล้ายสิงโต หากเป็นแมวที่เติบโตเต็มที่จะมีความยาวจรดปลายหาง 1 เมตร เลยที่เดียวคะ กำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกา อายุไขราวๆ 15 ปี เหมือนเเมวทั่วไป ปัญหาคือเจ้าของควรให้อาหารเสริมด้วยเนื้อสัตว์ เช่น โปรตีน

เรามาดูคลิปวิดีโอน่ารักๆ เกี่ยวกับแมวแสนรู้กันดีกว่าคะหลังจากรู้เรื่องราวและถิ่นกำเนิดของแมวมาสักเล็กน้อยกันแล้ว คลิ๊ก!!ดูกันเลยคะ

                               

ขอบคุณรูปภาพและเนื้อหาความรู้จาก http://pet.kapook.com/view70394.html

Review-แนะนำการใช้งานโปรแกรม Dropbox

Dropox คืออะไร

      
ขอบคุณรูปจาก http://securityintelligence.com/droppedin-remotely-exploitable-vulnerability-in-the-dropbox-sdk-for-android/#.VbRJF_6-XMG

       เจ้าโปรแกรมนี้คือบ้านสำหรับรูปภาพ เอกสารต่างๆรวมถึงวิดีโอนั้นเองค่ะ ไฟล์ต่างๆทั้งหมดของคุณ ทุกสิ่งที่เพิ่มใน dropbox จะปรากฏโดยอัตโนมัติบนคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์ แม้แต่เว็บไซต์ dropbox ของคุณสามารถเข้าถึงของมูลของคุณได้จากทุกที่ และยังทำให้การแบ่งปันกับบุคคลอื่นทำได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษาหรือมืออาชีพ หรือแม้แต่คุณทำโทรศัพท์ตกในน้ำ ข้อมูลของคุณก็จะปลออดภัยใน dropbox ก็จะไม่มีวันสูญหาย

การแบ่งปันที่ง่ายดาย

     
ขอบคุณรูปจาก http://www.techxcite.com/topic/19098.html

     Dropbox ทำให้การแบ่งปันเป็นเรื่องง่ายๆ คือ เชิญเพื่อนๆ ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ไปยังโฟลเดอร์ใดๆใน dropbox ของคุณแล้วยังสามารถใช้งานโฟลเดอร์เหล่านั้นราวกับบันทึกโดยตรงลงในคอมพิวเตอร์ของพวกเขาได้อีกด้วย คุณสามารถส่งลิงก์ไปยังไฟล์รูปภาพ และโฟลเดอร์ใน dropbox ไปให้บุคคลต่างๆได้อีกด้วย ซึ่งทำให้dropboxสมบูรณ์แบบสำหรับโครงการทีม ด้วยการแบ่งปันรูป

มีความปลอดภัยเสมอ

      
ขอบคุณรูปจาก https://www.dropbox.com/tour

    หยุดทุกความกังวล แม้ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณจะเสียหาย หรือโทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ เพราะข้อมูลของคุณจะปลอดภัยเสมอใน Dropbox และสามารถเรียกคืนได้ในพริบตา Dropbox เป็นเหมือนไทม์แมชชีนที่ช่วยคุณยกเลิกข้อผิดพลาดและแม้แต่ยกเลิกการลบไฟล์ของคุณที่เผลอลบโดยไม่ตั้งใจ

เซอร์ไพรส์ตัวคุณเอง
     
ขอบคุณรูปจาก http://bloggingheat.com/host-images-through-dropbox-to-increase-the-speed-of-your-website.php

    ผู้คนมากกว่า 400 ล้านคนทั่วโลกใช้งาน Dropbox เพื่อช่วยในการออกแบบอาคาร แต่งเพลง ดำเนินธุรกิจต่างๆ และแม้แต่ประสานงานเพื่อบรรเท่าทุกข์จากภัยพิบัติไม่ว่าคุณจะเป็นครู ช่างภาพ ศิลปิน หรือนักกิจกรรม เจ้าDropbox ก็ยังช่วยชีวิตของคุณให้ง่ายขึ้น

ประโยชน์ของDropbox

    คือสามารถเก็บข้อมูลที่เราต้องการใช้งาน ไว้บนพื้นที่ออนไลน์ ทำให้เราสามารถเปิดไฟล์งานที่ต้องการได้จากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆที่รองรับ โดยต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ทจึงทำให้เราสามารถสะดวกสบายในการทำงานนอกสถานที่ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไปด้วยให้ยุ่งยาก

เพื่อเข้าใจได้ง่ายขึ้นเรามาดูวิธีการใช้งานและการตั้งโปรแกรมนี้กันค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dropbox.com/th_TH/tour

คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

สวัสดีค่ะ!! วันนี้เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์กันดีกว่านะค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคงสงสัยกันว่าเจ้าคอมพิวเตอร์เนี้ยมันคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรเรามาติดตามดูกันเลยค่ะ

คอมพิวเตอร์คืออะไร ??????
--->คอมพิวเตอร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อคนในสังคมปัจจุบัน เกือบทุกสถานที่ ทุกวงการล้วนนำคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้งาน จึงกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยในการทำงานและการดำรงชีวิตประจำวันอีกด้วย
                                 

                                        ขอบคุณรูปจาก https://stanglibrary.wordpress.com

ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ใช้ในด้านการคำนวณและสามารถจำข้อมูล และสามารถจำข้อมูลทั้งตัวเลข ตัวอักษร เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไปนอกจากนี้ยังจัดการเก็บข้อมูลกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง คอมพิวเตอร์ยังสามารถในด้านต่างๆอีกมากมาย

การทำงานของคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนที่1 รับข้อมูลเข้า  --  เริ่มต้นด้วยการนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนที่2 ประมวลผลข้อมูล -- เมื่อนำข้อมูลเข้าแล้ว เครื่องจำดำเนินการกับข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
ขั้นตอนที่3 แสดงผลลัพธ์ -- เป็นการประมวลผลมาแสดงให้ทราบ

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายประการทำให้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำวันในสังคมเป็นที่นิยมอย่างมากที่พบเห็นบ่อยคือ การใช้พิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสาร อื่นอีกมากมาย นอกจากนี้นังมีการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆอีกหลายอย่าง

เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คืออะไร !!
ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยสองเครื่องเชื่อมต่อกันโดยใช้สื่อกลาง และสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ นอกจากนี้ยังใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในเครือข่ายร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดิสก์ เป็นต้น   เมื่อมีการเชื่อต่อเครือข่ายอื่นๆที่อยู่ไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต กับคนทั่วโลกก้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้

                               
                                ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.vcharkarn.com/varticle/33070

          การใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กันโดยสายสัญญาณ การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่องจะเร็วมากเนื่องจากการเดินทางของข้อมูลผ่านสายสัญญาณนี้ จะมีความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง เพราะแม้ว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์จะอยู่ไกลแค่ไหน การเเลกเปลี่ยนข้อมูลก็จะเร็วกว่าการใช้แผ่นดิสก์มาก เครือข่ายแบบนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 

องค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
-คอมพิวเตอร์เชื่อมกันอย่างน้อย 2 เครื่อง
-สายสัญญาณและอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูล
-โปรโตคอล หรือภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิเตอร์

ประโยชน์เครือข่ายคอมพิวเตอร์
-การสนทนาผ่านเครือข่าย ''Chat''
-การประชุมทางไกล "video conference"
-สามารถเเลกเปลี่ยนข้อมูลได้อ ย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
-สามารถรวมการจัดการไว้ในเครื่องที่เป็น SERVER
-สามารถใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อติดต่อผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว

เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆนะค่ะในการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองได้ง่ายๆ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก 

http://www.jinan.co.th/computer.html

http://guru.sanook.com/2287/

วิเคราะห์ข้อสอบ Onet คอมพิวเตอร์ 5 ข้อ

สวัสดีค่ะก่อนที่จะทำข้อสอบโอเน็ต (คอมพิวเตอร์) เรามารู้จักกับโอเน็ตกันก่อนหลายๆคนสงสัยว่าO-netคืออะไรทำไมต้องสอบแล้วO-netเอาไปใช้อะไรได้บ้าง ดังนั้นยังไม่สายเกินไปสำหรับเพื่อนๆหรือน้องๆคนไหนที่ยังไม่ค่อยรู้จักเจ้า O-net วันนี้เรามาทำความรู้จักกันหน่อยค๊า จะได้ไม่มองข้ามความสำคัญกันไปนะค่ะ

                             

วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้

เรามาทำความรู้จัก''โนรา'' หรือที่เรียกกันว่า''มโนราห์'' กันดีกว่า

                                                 

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

ภาษาคอมพิวเตอร์ 

เป็นภาษาสื่อกลางที่มนุษย์พยายามถ่ายทอดความคิดและความรู้ต่างๆเพื่อในการตอบโต้และสื่อความหมาย ภาษาที่ใช่กันในชีวิตประจำวัน เช่น ภาษาไทย ถาษาอังกฤษ สิ่งเหล่านี้เรียกว่า"ภาษาธรรมชาติ" ภาษาคอมพิวเตอร์มี 3 ระดับ คือ ภาษาเครื่อง ภาษาระดับต่ำ ภาษาระดับสูง

Social Netwoek กับนักเรียนและสังคมไทย

เรามาดูกันดีกว่าคะว่า 5 อันดับที่คนนิยมมีอะไรบ้าง และ Social network คืออะไร                                                                                            ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จำพวกไมโครบล็อก โดยผู้ใช้สามารถส่งข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษร ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่                                                                                                                                                                                               Skype (สไกป์) คือ โปรแกรมที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันระหว่างผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยข้อความ (Chat) ข้อความเสียง (VoIP) และภาพจากกล้องโดยจะเป็นการสื่อสารกันแบบ Real Time ลักษณะจะคล้ายกับ MSN (Windows Live Messenger) แต่ Skype จะให้คุณภาพเสียงคมชัดกว่าอยากเห็นได้ชัด

WeChat ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศไทยมาได้สักระยะแล้ว หลายคนอาจรู้จัก WeChat กันมาบ้างแล้วจากข่าว หรือจากโฆษณาทีวี ฟีเจอร์หลักของ WeChat นั้นคือฟีเจอร์ที่ครบเครื่อง การติดต่อที่ทำได้ทั้งข้อความ เสียง วิดีโอ ทั้งยังใช้งานง่าย

Viber เป็นแอพลิเคชันในหมวดของผู้ให้บริการ ที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store ได้ฟรี ความสามารถของ Viber คือการโทรหาเบอร์ของ Viber ด้วยกันแบบฟรีๆ โดยเครื่องที่จะโทรหา ได้นั้นต้องติดตั้ง Viber ลงที่เครื่องนั้นด้วย และเชื่อมต่อ กับ Wifi 3G

Pinterest คือสื่อสังคมออนไลน์แนวใหม่ (Social Network) ที่มาแรงมากถ้าเทียบอัตราการเติบโตกับการเปิดตัวใหม่ๆ มีจุดเด่นคือการสร้างกระดานส่วนตัวขึ้นมาแล้วก็นำเรื่องราวหรือรูปที่น่าสนใจนั้นไปปักหมุดเอาไว้ ทั้งนี้การปักหมุด (เรียกว่าการ Pin) เปิดตัวโดยทีมจาก Palo Alto, California

ข้อเสียของ Social Network

-เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ของเราให้บุคคลอื่นได้ดูและแสดงความคิดเห็น -ผู้ใช้ที่เล่น social  network และอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสียได้หรือบางคนอาจตาบอดได้      

-ถ้าผู้ใช้หมกหมุ่นอยู่กับ social  network มากเกินไปอาจทำให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้

การใช้สื่อสังคม (Social Media) และเครือข่ายสังคม (Social Networking)
     ปัจจุบันกระแสการใช้สื่อสังคม (Social Media) และเครือข่ายสังคม (Social Networking) อย่าง Facebook, Twitter, Youtube ได้รับความนิยมสูงมาก ทั้งในรูปแบบการใช้ส่วนบุคคล โครงการ จนถึงระดับองค์กร มีการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ของหน่วยงานด้วยผ่านสื่อสังคม เครือข่ายสังคมอย่างต่อเนื่อง และจำนวนมาก บุคลากรขององค์กรสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ facebook และนำเสนอเนื้อหา ข้อมูลของตนเองผ่าน facebook ควบคู่กับเว็บไซต์หลักที่มีอยู่เดิม

ที่มา http://hitech.sanook.com/1261319/